GREAT EXPEDITION TRANS SIBERIA & TRANS MONGOLIA

เส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย และทรานส์มองโกเลีย

สำหรับนักเดินทางที่หลงใหลในเส้นทางกึ่งผจญภัย สัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ตระการตา ไปพร้อม ๆ กับการได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างของผู้คน บนดินแดนชายขอบประเทศจีน และรัสเซีย ทริปเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย และทรานส์มองโกเลียอาจเป็นคำตอบ เส้นทางตั้งต้นจากเอียร์คุสต์ เมืองสำคัญของเขตไซบีเรียตอนใต้ นั่งรถไฟผ่านชมธรรมชาติสุดงดงาม ก่อนข้ามพรมแดนสู่มองโกเลีย เพื่อปิดท้ายการเดินทางที่เมืองอูลันบาตอร์กับระยะเวลาเดินทางรวม 15 วัน ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมตีตั๋วรถไฟ แล้วไปผจญภัยด้วยกันเลย!

Start & End The Trip in Irkust

เอียร์คุสต์เป็นเมืองศูนย์กลางการติดต่อค้าขายระหว่างรัสเซีย จีน มองโกเลีย และทิเบตมายาวนาน เมืองจึงค่อนข้างทันสมัยและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันยังมีกลิ่นอายของบ้านเรือน ตึกราม โบสถ์ วิหาร ในสถาปัตยกรรมแบบไซบีเรียแท้ๆ จนได้รับฉายาว่า “ปารีสแห่งไซบีเรีย” ทริปนี้ ตั้งต้นและปิดท้ายที่เอียร์คุสต์ โดยมีสถานที่ไฮไลต์ห้ามพลาด ได้แก่

พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมและชาติพันธุ์ทอล์ทซี่ (The Taltsy Museum of Architecture and Ethnography) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งบนเนื้อที่กว่า  166 เอเคอร์ รวบรวมบ้านเรือน โบสถ์ไม้ บ้าน ฟาร์ม โรงเรียน ที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวไซบีเรียนสมัยก่อน อาคารทั้งหมดเป็นของดั้งเดิม ที่ได้รับการขนย้ายมาจากบริเวณรอบทะเลสาบไบคาล ซึ่งเคยถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่

เกาะโอล์คฮอน (Olkhon) เกาะขนาดใหญ่สุดในทะเลสาบไบคาล และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก เพื่อไปท่องเที่ยว ใจกลางเกาะเป็นที่ตั้งของสถูปสีขาวในสถาปัตยกรรมทิเบต (White Buddhist Stupa) สร้างอุทิศให้แด่เทวีฑากิณี (Dakini) ซึ่งเป็นหนึ่งในเทพเจ้าองค์สำคัญของศาสนาพุทธทิเบต นิกายวัชรยานตันตระ และอีกหนึ่งไฮไลต์ของเกาะโอล์คฮอนคือ แผ่นน้ำแข็งยักษ์หนากว่า 6 เมตร กับความงดงามของฟองอากาศนับร้อยพันที่แข็งตัวอยู่ภายใต้ผืนน้ำ ดุจงานประติมากรรมที่ธรรมชาติสร้างสรรค์

โขดหินโคบอย (Khoboy Rock) หนึ่งในจุดชมวิวดีที่สุดของทะเลสาบไบคาล เราจะได้เห็นทิวทัศน์ของทะเลสาบแบบสุดลูกหูลูกตา ไม่มีสิ่งใดบดบัง อีกกิจกรรมที่สามารถทำได้บนเกาะคือ ซาวน่าสไตล์รัสเซีย (Banya) ที่สืบทอดธรรมเนียมการซาวน่าแบบดั้งเดิมนี้ต่อกันมาหลายศตวรรษ

หินศักดิ์สิทธิ์ (Shaman Rock) จุดชมวิวที่มาพร้อมตำนาน เล่าถึงโขดหินชามานที่เทพเจ้าไบคาลทรงโยนขวางลูกสาวนาม “แองการ่า” ที่วิ่งหนีตามคนรัก คนโบราณเชื่อกันว่าหินก้อนนี้มีพลังมหัศจรรย์ ขณะเดียวกันในยุคหนึ่ง บริเวณก้อนหินยักษ์นี้ ยังเคยใช้เป็นสถานที่ตัดสินคดีความต่าง ๆ โดยจะนำผู้ถูกกล่าวหา มาตรึงร่างทิ้งไว้หนึ่งคืน หากใครทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายได้ จะถือว่าไม่มีความผิด

พิพิธภัณฑ์ไบคาล (Baikal Museum) จัดแสดงสัตว์น้ำสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่พบได้ในทะเลสาบไบคาล อาทิ แมวน้ำแห่งทะเลสาบไบคาล ปลาน้ำจืดสายพันธุ์ต่าง ๆ เรื่องราวการตั้งถิ่นที่อยู่ของคนไซบีเรียในยุคแรก ไปจนถึงแบบจำลองส่วนแสดงกายวิภาคการเกิดทะเลสาบไบคาลที่น่าสนใจอย่างมาก

บ้านกบฎเดือนธันวาคม (Decembrist’s House Museum)  พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการดัดแปลงจากบ้านธรรมดา ๆ ของ ครอบครัวเซอร์ไก ทรูเบทสกอย ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อรำลึกถึงกลุ่มกบฎ ที่ต่อต้านการขึ้นครองราชย์ และการปกครองของซาร์นิโคลาสที่ 1 แห่งรัสเซีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1825 ที่ต่อมาถูกเนรเทศจากนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมายังเอียร์คุสต์ เมืองที่ในอดีตเป็นศูนย์รวมของเหล่ากบฏในรัสเซีย

มหาวิหารพระแม่แห่งคาซาน (Our Lady of Kazan Cathedral) เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อคนเอียร์คุสต์มาก เพราะโบสถ์แห่งนี้เกิดขึ้นจากเงินบริจาคของคนท้องถิ่นทั่วทุกสารทิศ ทั้งชาวบ้าน กบฎ การเมือง โจรผู้กลับใจที่ถูกเนรเทศมายังเอียร์คุสต์ นอกจากนี้ตัวโบสถ์ยังมีความงดงามที่เกิดจากรูปแบบการก่อสร้างในศิลปะไบเซนไทน์อีกด้วย ภายในประดิษฐานบัลลังก์หินอ่อนสีแดง และมีเสาหินหลักของโบสถ์ที่ทําจากหยก ซึ่งงดงามควรค่าแก่การเยือนชมอย่างมาก

ถนนคนเดิน 130 สแควร์ (130 Square Street ถนนเส้นที่น่าเดินเล่นที่สุดของเอียร์คุสต์ เต็มไปด้วยร้านรวงตึกราม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่สวยงามคลาสสิก และเป็นแหล่งที่เราสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเอียร์คุตส์ยุคใหม่ที่มีสีสันได้อีกด้วย

Tips เดินทางมาถึงไซบีเรีย ต้องไม่พลาดลิ้มลองปลาโอมุล ปลาชนิดนี้พบได้บริเวณตลาดขายปลากับของที่ระลึก เป็นปลาท้องถิ่นที่มีเฉพาะที่ทะเลสาบไบคาลเท่านั้น โดยพ่อค้าน้อยใหญ่จะตั้งแผงขายปลาชนิดนี้ข้าง ๆ ริมทะเลสาบไบคาล เป็นอีกภาพชีวิตชาวไซบีเรียที่น่าสนใจมาก ๆ

Memorable Rail Trip

Circum Baikal Railway การเดินทางในเขตไซบีเรีย จะสมบูรณ์ไม่ได้ หากขาดการนั่งรถไฟสายชมวิวที่สวยงามที่สุดอย่าง เซอร์คัม ไบคาล เรลเวย์ แล่นไปตามเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน  ผ่านทิวทัศน์งดงามของทะเลสาบ ลอดอุโมงค์รถไฟ  รวมระยะทาง 7 กิโลเมตร

Trans Siberia & Trans Mongolia  Railway

เริ่มต้นเส้นทางรถไฟข้ามทวีปกันที่สถานีรถไฟ Irkutsk-Passazhirskiy Railway Station สุดยอดประสบการณ์เดินทางด้วยรถไฟ โดยเส้นทางจะเลาะเลียบทะเลสาบไบคาล จากนั้นผ่านเข้าสู่เขตป่าสนไทก้า (Taiga Forest) และข้ามเข้าสู่ สาธารณรัฐบูรยาเตีย (Republic of Buryatia) ที่เมืองอูลาน อูเด (Ulan Ude) ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซเลนก้า และอยู่ห่างจากทะเลสาบไบคาลไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ100 กิโลเมตร เป็นเมืองที่แนะนำให้ลงแวะเที่ยว เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างรัสเซียและมองโกเลีย

Ulan Ude  

ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1666 เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางของรัสเซีย มองโกเลีย และจีน บรรยากาศเมืองมีความผสมผสานทั้งพุทธและคริสต์ บริเวณจัตุรัสกลางเมือง Ploshchad Sovetov มีรูปหล่อศีรษะขนาดมหึมาของเลนิน Giant Lenin Head สร้างเพื่อรำลึกถึงวลาดิเมียร์เลนิน ผู้ร่วมก่อตั้งคณะปฎิวัติบอลเชวิก ล้มล้างระบอบกษัตริย์ สู่การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย รวมถึง Merchant’s Mansion อาคารที่พักอาศัยเก่าแก่ของเหล่าพ่อค้ารัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ตลอดแนวคุ้งน้ำ งดงามด้วยสถาปัตยกรรมรัสเซียคลาสสิก

สถานที่ห้ามพลาดหอีกแห่งคือ พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ชนเผ่าทรานส์ไบคาล (Ethnographic Museum of Transbaikal Peoples) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งมีขนาดใหญ่ที่สุดในรัสเซีย จัดแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรม การค้า และที่อยู่อาศัย ตลอดจนเสื้อผ้าเครื่องกาย เครื่องประดับ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงความเชื่อของชาวบูร์ยาต ขณะเดียวกันยังมีสถานที่สำคัญทางศาสนา อาทิ

วัดพุทธรินโปเช บักชา (Rinpoche Bagsha Datsan) วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค. ศ. 2000 โดย พระอาจารย์ เอเช่โลดอย รินโปเช และได้รับพระพรจากท่านดาไลลามะองค์ที่ 4 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในรัสเซีย สูงประมาณ 5 เมตร เป็นที่นิยมสำหรับผู้ต้องการมาปฏิบัติ ในการทำสมาธิและเดินจงกรมรอบสถูป

วัดพุทธไอโวลกินสกี้ดัตซัน (Ivolginsky Datsan Buddhist Monastery) วัดพุทธนิกายมหายานแบบลามะ ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบทิเบตงดงาม ภายในเก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้และงานฝีมือของชาวบูร์ยาต เช่น ผ้าพระบฎหรือทังก้า งานแกะสลักและสิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา และวัดแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บคัมภีร์โบราณ ที่เขียนด้วยภาษาทิเบตบนผืนผ้าไหมธรรมชาติและมีต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ในเรือนกระจกให้สักการะ

Ulaanbaatar

จากอุลัน อุเด สามารถนั่งรถไฟ หรือรถบัส สู่ อูลานบาตอร์ เมืองหลวงยุคใหม่ของประเทศมองโกเลีย ที่ได้รับสถาปนาให้เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการเมือง การปกครอง และพุทธศาสนา บรรยากาศเมืองอยู่ในโอบล้อมขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ 4 ขุนเขา มีเขตป่าสน ทุ่งหญ้าสเต็ปป์ และวิถีชีวิตชนพี้นเมืองที่มีเสน่ห์ สถานที่ไฮไลต์ในเขตเมืองและพื้นที่รอบนอก ได้แก่

จัตุรัสซัคบาตาร์ (Sukhbaatar Square)  ศูนย์กลางเมืองที่รายล้อมด้วยสถานที่สำคัญทางการเมือง-เศรษฐกิจ โดยใจกลางมีอนุสาวรีย์ท่าน แดมดิน ซุคบาตาร์ บิดาแห่งการปฏิวัติมองโกเลีย ตั้งตระหง่านอยู่  และหากต้องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์มองโกเลีย ต้องมาที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่รวบรวมโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ ๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับกองทัพนักรบบนหลังม้าของท่านเจงกิส ข่าน

พระราชวังฤดูหนาวข่านโบกด์ (Winter Palace of Bogd Khaan) ประกอบด้วยห้องหับต่าง ๆ อันงดงาม จัดแสดงเครื่องใช้ในยุคโบราณที่บางส่วนเก็บรักษาไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ โดยหลังสิ้นสุดการปกครองระบอบกษัตริย์ พระราชวังแห่งนี้ได้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมขุมทรัพย์แห่งมองโกเลีย

วัดกานดาน (Gandan Monastery) หนึ่งในวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดของมองโกเลีย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมองโกเลีย ที่ยังมีกิจกรรมทางศาสนาเป็นประจำทุกวัน โดยวัดมีความหมายว่า ความสุขอย่างสมบูรณ์แบบ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปพระอวโลกิเตศวร ขนาด 26.5 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีวิทยาลัยสงฆ์ รวมถึงวิทยาลัยพุทธปรัชญาอีกด้วย

จุดชมวิวไซซาน (Zaizan Hill) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา สามารถมองเห็นวิวได้รอบเมืองอูลานบาตอร์ เป็นหนึ่งแลนด์มาร์กของเมือง ที่สร้างเพื่อรำลึกถึงทหารชาวมองโกลผู้เสียชีวิตในสงครามโลก ครั้งที่ 2

Spend The Day in Mongolian Landscape

อนุสาวรีย์ เจงกีสข่าน (Genghis Khan Equestrian Statue) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความเกรียงไกรในอดีตของชนชาติมองโกล ภายในอนุสาวรีย์รูปนักรบเจงกิสข่านสีเงินยวงนี้ มีความสูงถึง 40 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 250 ตัน จัดแสดงเป็นห้องนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของชนชาติมองโกลตั้งแต่ยุคสำริดตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวชั้นบนของรูปปั้นได้ เพื่อมองลงมาพบกับทัศนียภาพทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา และทิวเขากว่า 200 ลูก!

อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์ (Terelj National Park) ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของอูลานบาตอร์ นักท่องเที่ยวนิยมทำกิจกรรมขี่ม้าหรือขี่อูฐชมธรรมชาติ ในจำนวนนี้มีหินเต่า ที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและกองหินศักดิ์สิทธิ์  Teralj Ovoo ตามความเชื่อของชาวมองโกเลีย

อุทยานแห่งชาติโบกด์ข่าน (Bogd Khan Uul National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยเขตป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีพืชพรรณมากกว่า 220 ชนิด และสัตว์ป่าเฉพาะถิ่น อย่างกวางแดง กวางมัสค์ กวางไซบีเรียน ไปจนถึงนกอีกนานาชนิด การได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าแห่งนี้ จึงช่วยเพิ่มพลังชีวิตและความสดชื่นได้อย่างมาก

เนินทรายเอลเซ่น ทาซาร์ไค (Elsen Tasarkhai Sand Dunes) เป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายโกบี ที่มากมายด้วยสัตว์ประจำถิ่น อาทิ  ฝูงอูฐ ฝูงละมั่ง หมีโกบี รวมถึงยังเป็นเขตที่ได้ชื่อว่ามีเนินทรายที่สวยงามน่าอัศจรรย์ราวกับภาพวาด ประสบการณ์ห้ามพลาดคือการขี่อูฐเดินเล่นบนเนินทราย แบบฉบับชาวมองโกล ส่วนในยามค่ำคืนสภาพอากาศแตกต่างจากตอนกลางวันอย่างมาก แต่รับรองว่าคุณจะตะลึงกับดาวนับล้านดวงที่งดงามเหนือจินตนาการ

พักแคมป์มองโกล (Mongol Nomadic Camp) ไปลองสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวชาวพื้นเมืองมองโกลดูบ้าง กับที่พักที่เรียกว่า เกอร์ (Ger) หรือกระโจมเต็นท์พักแบบชาวมองโกล ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เตียง โต๊ะ ตู้ และเตาผิงไฟ นับเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเข้าถึง เพราะเราจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมชาวมองโกล ผ่านวิถีชีวิต อาหารการกิน ที่พักกลางธรรรมชาติที่พร้อมจะเคลื่อนย้ายตามฤดูกาล อ้อ ยังมีกิจกรรมให้ลองแต่งชุดพื้นเมืองด้วยนะ

Naadam Festival

เทศกาลนาดัม ภาษาถิ่นเรียกว่า Eriin Gurvan Naadam เป็นเทศกาลประจำปีที่จัดอย่างยิ่งใหญ่และมีสีสันที่สุดของมองโกเลีย จัดขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติเมืองอูลานบาตอร์ ในอดีตเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นหลังเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยเป็นการรวมตัวกันของชาวมองโกเลียทั้ง 9 เผ่า เริ่มพิธีการด้วยขบวนพาเหรดแห่ธงสีขาว ต่อด้วยการแสดงพื้นเมือง และการประลองความแข็งแกร่งตามแบบฉบับนักรบบนหลังม้าที่ยิ่งใหญ่ การแข่งขันประกอบด้วย การเล่นมวยปล้ำ การแข่งขันขี่ม้า และการยิงธนู (ยกเว้นแข่งมวยปล้ำที่ไม่อนาตให้ผู้หญิงลงแข่ง)  จึงนับเป็นเทศกาลที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ในปีค.ศ. 2019 นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 กรกฎาคม

ทั้งหมดนี้คือไฮไลต์การเดินทางประสบการณ์และความทรงจำ
บนเส้นทางรถไฟสาย Trans Siberia & Trans Mongolia
พร้อมด้วยเทศกาลนาดัม ที่รอคุณอยู่

สอบถามโปรแกรมการเดินทาง

โทร. 08 3294 7650 / 08 7353 2972

Close