ตามหาเมืองแมนที่ปลายฟ้า ซัมบาล่า ย่าติง แชงกรีล่า

September 13, 2019
Highlight of the month

ชัมบาลา…แท้ที่จริงอยู่ที่ใดในโลก?

 ตามตำนานของชาวทิเบต ชัมบาลา (Shambhala)  เป็นชื่อของดินแดนลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ โดยเชื่อกันว่าเป็นดินแดนแห่งอุดมคติที่มวลมนุษยชาติจะได้พบกับความสันติสุขตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนานิกายมหายาน (เปรียบดั่งดินแดนพระศรีอาริย์ของเถรวาท) แต่กระนั้นก็ยังมีข้อกังขาว่าแท้ที่จริงแล้วชัมบาลานั้นมีอยู่จริงหรือไม่?

ทว่าในวัฒนธรรมสมัยใหม่ มีนักประพันธ์ชาวอังกฤษชื่อว่า James Hilton ได้นำความเชื่อดังกล่าวไปแต่งเป็นนวนิยายเรื่อง Lost Horizon (1933) เล่าเรื่องของชาวตะวันตกลุ่มหนึ่งโดยสารเครื่องบินเล็กมายังบริเวณเทือกเขาหิมาลัย แต่แล้วได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากคนท้องถิ่นกลุ่มหนึ่ง พาเดินทางเข้าไปยังดินแดนลึกลับที่ไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอก ที่นี่เป็นเหมือนดินแดนในฝัน เต็มไปด้วยภูมิทัศน์อันงดงามรายรอบด้วยภูเขาหิมะ ผู้คนต่างอยู่กันอย่างสันติสุข และปกครองดูแลโดยพระลามะระดับสูง ชื่อของเมืองนั้นคือ แชงกรีลา (Shangri La)

และเมืองแชงกรีลานี้เอง ที่ดันไปพ้องกับชื่อเมือง เซียงเกอลีลา (Xiang Ge Li La) ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือสุดของมณฑลยูนนานในประเทศจีน ถิ่นที่อยู่ของชาวทิเบต ที่ตามชานเมืองยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านดินทรงสี่เหลี่ยม ผู้คนยังแต่งกายพื้นเมือง เป็นที่ตั้งวัดทิเบตขนาดใหญ่ และยังเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาแบบทิเบตในพื้นที่อีกด้วย

ทั้งนี้ยังมีความเชื่อลึก ๆ ของชาวทิเบตว่า ชัมบาลา ที่แท้จริงนั้น ซ่อนเร้นอยู่ใจกลางหุบเขาลึก จนกระทั่งมีการค้นพบ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติย่าติง บริเวณชายแดนมณฑลเสฉวนกับมณฑลยูนนาน ด้วยสภาพภูมิประเทศอันตระการตา ร่วมด้วยภูเขาหิมะอีกถึงสามแห่ง ชาวทิเบตจึงอนุมานว่าหากจะมีซัมบาลาที่ไหนสักแห่งบนโลกก็คงหนีไม่พ้นจากหุบเขาอันงดงามราวสรวงสวรรค์แห่งนี้ ที่อาจเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา

Did you know?

จากกรุงเทพฯ มีเที่ยวบินตรงสู่เมือง เฉิงตู (Chengdu) เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมงเท่านั้น

และเมื่อ ชัมบาลา อยู่ใกล้เพียงเอื้อม แล้วทำไมเราจึงไม่ออกไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง ให้เป็นทั้งบุญตาและบุญใจ กับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและพลังศรัทธาของผู้คน ผ่านการเดินทางตลอด 7 วัน เพื่อเยี่ยมชม 9 สถานที่ระดับ A-List ในเส้นทาง…ชัมบาลาในฝัน

1. อุทยานธารน้ำแข็งไห่โหลโกว (Hailuogou Glacier Forest Park)

ตั้งอยู่ในตำบลโม่ซี (Moxi) ห่างจากเมืองเฉิงตูมาราว 350 กิโลเมตร เป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เกิดจากการละลายของหิมะบน ภูเขากังกา (Gongga Mountain) เจ้าของความสูง 7,556 เมตร นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในมณฑลเสฉวน และได้รับสมญานามว่า ราชาแห่งขุนเขา (King of Mountains)

มาถึงที่นี่ แนะนำให้นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปที่ความสูง 2,850 เมตร เพื่อชมธารน้ำแข็งที่สะสมตัวมานับพันปี ไหลเป็นทางยาวเกือบ 15 กิโลเมตร ซึ่งนอกจากธารน้ำแข็งแล้ว ยังมี ผืนน้ำตกน้ำแข็ง ที่ยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใครในโลก โดยมีความสูงกว่า 1,000 เมตร และกว้างกว่า 1,100 เมตร มีบางส่วนล้ำเข้าไปในแนวป่าสีเขียวสด เกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงาม

2. สะพานหลู่ติงเฉียว (Luding Bridge)

เป็นสะพานแขวนเก่าแก่ที่สุดของจีน ตั้งอยู่ในเมืองหลู่ติง (Luding) สร้างขึ้นเมื่อปี 1705 ในสมัยราชวงศ์ชิง มีความยาว 103 เมตร และกว้าง 2.8 เมตร ใช้โซ่เหล็ก 13 เส้นขึงระหว่างสองฝั่ง พื้นสะพานปูด้วยไม้กระดาน นอกจากนั้นแล้ว สะพานแห่งนี้ยังมีความสาคัญในประวัติศาสตร์จีน เมื่อกองทัพแดงของเหมา เจ๋อตงสู้รบกับกองทัพก๊กมิ่นตั๋งในปี 1935 และได้สร้างวีรกรรมพลีชีพในการแย่งยึดสะพานนี้มาจากรัฐบาลเจียง ไคเชก

3. เมืองซินตูเฉียว (Xinduqiao)

ชมทุ่งหญ้าแปดหญิงงาม หรือ ทุ่งหญ้าสวรรค์สร้าง (Tagong Grasslands) สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูใบไม้ร่วงด้วยทุ่งหญ้าสีทองบนที่ราบสูงสุดลูกหูลูกตา ตัดกับฝูงแกะและฝูงม้าที่กำลังเล็มหญ้ากระจัดกระจายไปตามท้องทุ่ง ร่วมด้วยความงดงามของบรรดาหมู่บ้านทิเบต ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเฉพาะตัวเรียงรายไปตามไหล่เขา ล้อมรอบด้วยกำแพงดินและหินที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติและภูมิประเทศโดยรอบ

4. วัดถ่ากง (Tagong Monastery)

วัดมหายานแบบทิเบต ตั้งอยู่ในเขตคังปา เป็นวัดที่ผู้คนในเมืองให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ภายในประดิษฐานองค์พระศรีศากยมุนี เช่นเดียวกับที่วัดต้าเจาในเมืองลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต ดังนั้นวัดถ่ากงจึงได้รับการขนานนามว่า วัดต้าเจาน้อย นอกจากนั้นแล้วยังมีโบราณวัตถุและโบราณสถานทรงคุณค่าอีกหลายชิ้น อาทิ รอยพระบาทบนก้อนหินของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวน รูปเจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตา รวมถึงเจดีย์แห่งความสำเร็จที่สร้างขึ้นโดยชาวอินเดียด้วย

5. เมืองเต้าเฉิง (Daocheng)

เป็นเมืองที่มีความสูงระดับเดียวกันกับกรุงลาซา เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองทิเบต ด้วยระดับความสูงราว 3,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จึงได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลังคาโลก ซึ่งมาพร้อมกับทิวทัศน์ที่เหมือนอยู่เสมอกับขอบฟ้า

6. เขตอนุรักษ์ธรรมชาติย่าติง (Yading Nature Reserve)

และก็มาถึงไฮไลต์ประจำทริปนี้ โดยคำว่า ย่าติง ในภาษาทิเบต หมายถึง แผ่นดินที่หันหน้าหาดวงอาทิตย์ เป็นเขตทิวทัศน์ในหุบเขาสูงจากน้ำทะเล 2,900-6,032 เมตร มีพื้นที่กว่า 840,000 ไร่ นับเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่สูงที่สุดของจีน และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เขตอนุรักษ์ธรรมชาติย่าติง มีภูเขาหิมะ 3 ลูก ที่ชาวทิเบตเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพระโพธิสัตว์และให้ความนับถืออย่างสูง ทั้งยอดเขาเซียนหน่ายยื่อ (พระโพธิสัตว์แห่งความกรุณา) ยอดเขาเซียนโตวจี๊ (เซียนเทวดาผู้สูงส่ง) และยอดเขาหยางเหม่ยหยง (องค์ทิพย์เทพพิทักษ์) ที่สูงแหลมแทงทะลุฟ้าขึ้นไปเกือบ 6,000 เมตร

อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่งของชาวทิเบต หนึ่งในนั้นคือ ทะเลสาบไข่มุก (เจินจูไห่) ซึ่งตั้งอยู่บนความสูง 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โอบล้อมไปด้วยเงื้อมเงาของยอดเขาเซียนหน่ายยื่อ ยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตอนุรักษ์ย่าติง

แต่ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศแบบไม่เหมือนใครครั้งหนึ่งในชีวิต แนะนำให้ใช้บริการขี่ม้าชมธรรมชาติของภูเขาหิมะทั้งสาม ต้นกำเนิดแชงกรีล่าที่หาชมได้ยาก รวมถึงความสวยงามของทะเลสาบ ทุ่งหญ้า น้ำตก ธารน้ำแข็ง และหุบเขาอันน่าประทับใจ ที่หากมาในช่วงปลายเดือนตุลาคมก็ยังจะได้ชมป่าเปลี่ยนสี เป็นสีเหลืองสลับเขียวซับซ้อนตัดกับภูเขาหิมะ สวยงามมาก

7. อารามหลี่ถัง (Litang Monastery)

วัดพุทธแบบทิเบต นิกายวัชรยาน ตั้งอยู่ที่เมืองหลี่ถัง (Litang) บนภูเขาสูง จุดเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ที่อารามน้อยใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่ริมเชิงเขา ให้ความรู้สึกสงบราวกับดินแดนชัมบาลาในตำนาน จากตรงนี้จะได้เห็นวิวของภูเขาไหจื่อ ภูเขาหิมะสีขาวโพลน อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองหลี่ถัง ซึ่งได้รับการขนานนามว่า ภูเขานกกระเรียนขาวหิมะหยก

8. เขตภูมิทัศน์มู่เก๋อฌั่ว (Mugecuo Scenic Area)

พื้นที่ที่ได้รับสมญานามว่า ทะเลสาบสวรรค์บนพื้นพิภพ ตั้งในเมืองคังติ้ง (Kangding) ประตูจากมณฑลเสฉวนสู่ทิเบต เป็นทะเลสาบที่ตั้งสูงจากระดับน้ำทะเลราว 3,780 เมตร เป็นอุทยานที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของจีน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ป่าไม้ ทุ่งหญ้า รวมถึงทะเลสาบอีกนับสิบแห่ง

วิธีท่องเที่ยวที่ดีที่สุดเมื่อมาที่นี่คือ นั่งรถชมเขตทิวทัศน์ให้ครบทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ 1.หุบเขาตู้จวาน 2.ที่ราบไซ่หม่า 3.บ่อน้ำแร่เย่าฉือเฟ่ย 4.ทะเลสาบมู่เก่อฌั่ว 5.ทะเลสาบ 7 สี และ 6.ทุ่งหญ้าหงไห่ (ทะเลแดง)

โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ ทะเลสาบมู่เก่อฌั่ว ที่สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลายในหนึ่งวัน ตอนเช้าพื้นผิวราบเรียบดั่งกระจก สะท้อนเงายอดเขาหิมะและขุนเขา หลังเที่ยงระลอกคลื่นกระเพื่อมเสียงดังไปทั่วทั้งหุบเขา เมื่อถึงยามเย็นแสงอาทิตย์สาดส่องผิวทะเลสาบเป็นสีทองต้องตา และเมื่อฤดูหนาวมาถึง น้ำในทะเลสาบแข็งตัวจะกลายเป็นลานสเก็ตชั้นดี

9. ถนนคนเดินโบราณจิ่นหลี่ (Jinli Pedestrian Street)

ซึมซับธรรมชาติกันมาจนเต็มอิ่มแล้วก็ได้เวลากลับเข้าเมืองเฉิงตู เพื่อช้อปปิ้งและเลือกกินสตรีทฟู้ดบนถนนคนเดินโบราณจิ่นหลี่ ที่ยังคงรักษาบรรยากาศสมัยโบราณไว้ได้เป็นอย่างดี ที่นี่มีสารพัดของกินและสินค้าต่าง ๆ มากมายให้ได้เลือกซื้อเป็นของที่ระลึกก่อนเดินทางกลับบ้าน

สนใจตามหาชัมบาลา

โทร. 09 8885 8842 / 09 8865 2094

Close